ภาษาสวีเดน 

 

 

 

 

 

พยัญชนะ /สระ 


การออกเสียง


คำศัพท์


หลักไวยากรณ์


บทสนทนา


เเบบฝึกหัด


พจนานุกรม


เเนะนำหนังสือ


เเนะนำเพลง


อื่นๆ 


 

หลักไวยกรณ์   ด้านล่างนี้เราได้พยายามสรุปสั้นๆให้ง่ายต่อการเริ่มเรียนในช่วงแรกสำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาสวีเดนนะคะ     

 

* ถ้าต้องการศึกษาให้ละเอียดเพิ่มมากไปกว่านี้ คลิกตามลิ้งค์ไปศึกษาชนิดของคำต่อไปได้เลยค่ะ 

1.  http://svenska2.oer.folkbildning.net  เวปนี้มีวีดีโอประกอบและเข้าใจได้ง่ายมาก สำหรับท่านที่เข้าใจภาษาสวีเดนได้พอสมควร (แนะนำ)

2.  http://www.ordklasser.se 

 

โครงสร้างของประโยคมีดังนี้  

 

ชนิดของประโยค โครงสร้างหลักของประโยค ตัวอย่างการสร้างประโยค
1. Påstående

    การกล่าวหรืออ้างถึง

subjekt + verb + objekt

 

ประธาน + กริยา+ กรรม

• Jag ska äta middag snart.

  ฉันจะรับประทานอาหารในไม่ช้านี้
• Pelle vill gå ut.

  เพ็ลเล่ะต้องการออกไปข้างนอก
• De vill inte vänta.

  พวกเขาไม่ต้องการรอ
• Det ser ut att börja regna snart.

  มันดูเหมือนว่าฝนจะเริ่มตกในไม่ช้านี้

 

2. Fråga

    คำถาม

verb + subjekt + objekt

 

กริยา + ประธาน + กรรม

 

 

• Vet du var Tom är?

   เธอรู้ไหมว่าทอมอยู่ที่ไหน
• Kan du ge mig smöret?

   เธอเอาเนยให้ฉันหน่อยได้ไหม
• Är din bil röd?

  รถของเธอสีแดงเหรอ
• Vart åkte ni i somras?

  พวกเธอจะไปเที่ยวที่ไหนกันฤดูร้อนนี้

 

3. Uppmaning

    ร้องเรียก หรือ เตือน

Imperativ

คำสั่ง

 

Imperativ + กรรม

คำสั่ง + กรรม

• Kom hit!

  มานี่ซิ
• Rör inte min bil!

  อย่าแตะต้องรถของฉัน
• Akta dig!

  ระวังตัว
• Ät inte för mycket!

  อย่ากินให้มากนัก

 

4. Önskan

    ปรารถนา, ต้องการ

    หรือ หวัง

ประโยคจะมีคำดังนี้อยู่ด้วย

Hoppas

vill

önskar

Hoppas det slutar att regna snart.

  หวังว่าฝนจะหยุดตกในไม่ช้า
• Jag vill att du går nu.

  ฉันต้องการให้เธอออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้
• Vi önskar att lektionen snart är slut.

   ฉันปรารถนา/อยากให้หมดชั่วโมงเรียนในไม่ช้านี้
• Han vill att vi skall gå på bio.

  เขาผู้ชาย ต้องการให้พวกเราออกไปดูภาพยนต์กัน
 

5. Utrop

    การร้องอุทาน

Interjektion

คำอุทาน

• Oj!

  โอ๊ย
• Hurra, vi vann!

  ฮูล่า เราชนะแล้ว
• Usch!

  อูชชชช
• Hoppsan!

  โฮปซ่าน (ใช้ตอนที่ตกใจ เช่น อุ๊ย)

 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขนิดของคำ (Ordklass)  ที่เรานำมาสร้างประโยค

 

คำนาม 

Substantiv

คำสรรพนาม

Pronomen

คำกริยา

Verb

คำวิเศษณ์ขยายคำนาม/ สรรพนาม

Adjektiv

คำวิเศษณ์ขยายกริยา/วิเศษณ์

Adverb

คำบุพบท

Preposition

คำสันธาน

Konjunktion

คำอุทาน

Interjunktion

 

* การนับเลข Räkneord 

 

1. Substantiv   (คำนาม) คือคำที่ใช้เป็นชื่อ บุคคล person [เพอชูน], สถานที่ plats [พลาทส] สิ่งของ saker [ซอกเกอร], คุณสมบัติ kvalitet [ควอลิเทียท] ซึ่งเราสามารถ เห็น ได้ยิน จับต้อง รู้สึก ดมกลิ่นได้ อย่างเช่น

 

ตัวอย่าง 

 

ett hus [เอ็ท ฮูส] บ้าน ๑ หลัง
en blomma [เอ็น บลุ่มม่า] ดอกไม้ ๑ ดอก
en skönhet [เอ็น เชอนเฮียท] คนสวย ๑ คน

 

คำนามเเบ่งออกเป็น ๒ พวก

Singular [ซิงกูล่า] เอกพจน์  เเปลว่า อันเดียว สิ่งเดียว

Plural [พลูรอล] พหูพจน์ เเปลว่า หลายอัน สิ่งของหลายอัน

 

Singular - เอกพจน์ 

 

Plural -พหูพจน์

 

Obestämd form
ไม่เจาะจง

 Bestämd form
เจาะจง
Obestämd form
ไม่เจาะจง
Bestämd form
เจาะจง
(en) hand handen    händer  händerna
(en) penna pennan  pennor pennorna
(ett) äppel  äpplet  äpplen äpplena 
(ett) öga  ögat  ögon  ögonen
(en) läkare läkaren läkare läkarna

 

  ศึกษาเพิ่มเติมที่ http://svenska2.oer.folkbildning.net/substantiv

 

2. Pronomen (คำสรรพนาม) คือคำทีใช้เเทนนามเพื่อไม่ต้องกล่าว นามนั้น ซ้ำๆกัน หลายๆ ครั้งหลายหน อย่างเช่น

Singular (เอกพจน์) Jag ฉัน
Du ท่าน เธอ คุณ
Han เขาผู้ชาย
Hon เขาผู้หญิง
Den มัน  ใช้กับคำนามที่เป็น  en 
Det มัน  ใช้กับคำนามที่เป็น  ett
Plural (พหูพจน์) Vi เรา
Ni พวกเรา
De เขาทั้งหลาย
Dom เขาทั้งหลาย

 

3. Verb  ( คำกริยา ) คือคำที่ใช้เสดงการกระทำของคำนาม หรือ สรรพนาม เช่น เเสดงการกระทำ göra  [เยอ]  เเสดงความเป็นอยู่ är [เเอ] blir [บรี]

 

ตัวอย่าง  

 

komma มา
sitta นั่ง
เดิน, ไป

 

คำกริยาเเบ่งออกตามหน้าที่ในประโยค เช่น 

 

Infinitiv [อินฟินิทีบ] คือ คำกริยาปฐม หรือ รากศัพท์ ที่ลงท้ายด้วย -a   คำ infinitiv ใช้ตามหลังกริยาช่วย เช่น คำว่า ska[สกอ] จะ, vill[วิล] ต้องการ, måste[โมสเต่] ต้อง 

 

ตัวอย่าง  - Jag ska sitta här  = ฉันจะนั่งตรงนี้

Imperativ [อิมเพอราทีบ] คือ คำชนิดนี้ส่วนใหญ่ลงท้ายด้วย -a หรือไม่มี a เลยก็ได้  จะใช้ในเป็นคำสั่งซะเป็นส่วนใหญ่ 

 

ตัวอย่าง - Tala ! högre = พูดให้ดังกว่านี้หน่อย
- Sitt ! nu = นั่งลง !

 

Presens [เพรสเซ่น] คำกริยาที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนี้ (ปัจจุบัน) ลงท้ายด้วย -er เเละ -ar

 

ตัวอย่าง - Jag äter banan  = ฉันรับประทานกล้วย (กำลังรับประทาน)

 

Preteritum [เพอเทอริทุ่ม] กริยาที่เป็นเหตุการณ์นั้นผ่านไปเเล้ว (อดีต) ลงท้ายด้วย -ade หรือ เปลี่ยนรูปไปเลย

ตัวอย่าง - Jag åt banan   = ฉันรับประทานกล้วย 
- Jag tittade inte på TV = ฉันไม่ได้ดูทีวี

Supinum [สุพีนุ่ม] กริยาที่ตามหลังคำกริยา har หรือ hade จะลงท้าย ด้วย -t

 

ตัวอย่าง - Jag har ättit   = ฉันรับประทานเเล้ว 
- Jag hade åkt bort = ฉันเดินทางไปที่อื่น

 

 

 

 

Perfekt Particip [เพอเฟค พาทิซีพ] คำกริยาที่ทำหน้าที่เหมือน คำวิเศษณ์ ลงท้ายด้วย -ade หรือเปลี่ยนรูป เช่น fryser => frusen   ตำเเหน่งของ perfekt particip คือหลังกริยาเเท้

ตัวอย่าง - Bilen var stulen = รถถูกขโมย

 

 

 

ตัวอย่าง

  Imperativ Infinitiv Presens Preteritum Supinum Perfekt Particip
กิน ät äta äter åt ätit äten
ätet
ätna
นั่ง sitt sitta sitter sat sutit -sutten
-suttet
-suttna
ดู titta titta tittar tittade tittat -tittad
-tittat
-tittade

 

 

4. Adjektiv คำวิเศษณ์ขยายคำนามหรือ สรรพนามให้ เด่นชัด เช่น สี ขนาด ร้อน  

 

Vit =  สีขาว, Svart = สีดำ, Små = เล็ก, Varm = ร้อน อบอุ่น

 

ตัวอย่าง en tung väska กระเป๋าหนักหนึ่งใบ (หนัก ขยาย กระเป๋า) 
en gammal hund สุนัขเเก่หนึ่งตัว (เเก่ ขยาย สุนัข)

คำวิเศษณ์ เเบ่งออกเป็น ๓ ระดับ

 

Positiv Komparativ Superlativ
ขั้นธรรมดา

 

ขั้นมากกว่า ขั้นมากที่สุด
tung  

หนัก

tyngre

หนักมากกว่า

tyngst

หนักที่สุด


stor

ใหญ่


större

ใหญ่กว่า


störst

ใหญ่ที่สุด


mycket

มาก


mera

มากกว่า


mest

มากที่สุด

 

ตัวอย่าง

ฺBordet är tungre än stolen. = โต๊ะตัวนั้นหนักกว่าเก้าอี้ตัวนี้

 

 

5. Adverb คำวิเศษณ์ที่ใช้ขยายคำกริยา วิเศษณ์ เเละ คำคุณศัพย์ ให้เด่นชัด เช่น บอกอาการ สถานที่ บอกจำนวนครั้ง บอกความมากน้อย ฯลฯ  คำขยายกริยาวิเศษณ์ ลงท้ายด้วย -t

 

ตัวอย่าง - Lena svarar mig vänligt = เลียน่าตอบฉันอย่างเป็นมิตร

 

 

 

6. Preposition  ( คำบุพบท ) เป็นคำที่ใช้เเสดงความสัมพันธ์ระหว่างนาม สรรพนามกับคำอื่นๆในประโยค อย่างเช่น  på [โพ] ข้างบน, i [อี] ใน

ตัวอย่าง - Sten lekar gården. = สเตียนเล่นบนสนาม
  - Jag bor i Stockholm.  = ฉันอยู่อาศัยที่สต๊อกโฮม

 

 

7. Konjunktion ( คำสันธาน ) คือคำที่เชื่อมคำวลี ประโยค เข้าด้วยกัน เช่น คำว่า och [โอ่ค], men [เเม่น], eller [เอลเลอ

 

ตัวอย่าง - Jag och Lisa går på bio. = ฉันกับลิซ้าไปดูหนัง

 

och  เชื่อมประโยค ๒ ประโยคเข้าด้วยกัน คือ 

 

ฉันไปดูหนัง                     + ลิซ้าไปดูหนัง

 

 

ตัวอย่าง - Jag kommer inte idag men jag kommer imorgon.

ฉันไม่มาวันนี้ เเต่ฉันมาวันพรุ่งนี้

 

8. Interjektion ( คำอุทาน ) คือคำที่เปล่งหรืออุทานออกมา เพื่อเเสดงความ รู้สึก ของอารมณ์อย่างกระทันหัน เช่น ว้าย โอ้ย  Oj ! ตามด้วยเครื่องหมาย เเสดงความตกใจ

 

ตัวอย่าง 

 

Oj då ! 

 

 

9. Räkneord ( ตัวเลข ) ใช้ในการนับ

1 en, ett [เอ็น], [เอ็ท]
2 två [ทวู]
3 tre [ทีร]
4 fyra [ฟี่ระ]
5 fem [เฟ็ม]
6 sex [เซคส]
7 sju [คู๊]
8 åtta [โอตตะ]
9 nio [หนี่ยุ่]
10 tio [ถี่ยุ่]