เมื่อก้าวเข้ามาสู่สังคมเเบบใหม่ ก็จำเป็นจะต้องเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ เพื่อเป็นที่ยอมรับในสังคมนั้นๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความอดทน ที่จะต่อสู้ใฝ่หาความรู้ใส่ตน เพื่อการประสบความสำเร็จในอนาคต!

ปลาหมักนี้จะรับประทานร่วมกับ หอมใหญ่สับ ผักชีลาว(dill) มะเขือเทศหั่นชิ้นบางๆ ขนมปังแผ่นบาง (tunnbröd) เนยแข็งจากเวสเตอรโบ๊ตเต็น(västerbottenost-เวสเตอรโบ๊ตเต็น อูสทฺ) และ เนยที่ทำมาจากนมแพะ- (messmör -เม็ส-สเมอร )

สิ่งที่ทำให้เข้าใจผิดคือ คนคิดว่า ปลาเฮอริงหมัก นั้น เน่า ซึ่งทำให้รู้สึกแปลกเมื่อได้กลิ่น ที่จริงแล้ว ปลาหมักนี้ หมักด้วย เกลือ และ ยิสต์ ประมาณ 6 สัปดาห์ ก่อนที่จะนำมารับประทาน ปลาหมักนี้เป็นที่นิยมมากทางภาคเหนือ และ ผลิตกับมากทางภาคเหนือ แต่ไม่ค่อยมีคนนิยมหมักทานเอง คนส่วนใหญ่ซื้อแบบที่บรรจุกระป๋อง

รสชาติของปลาหมักดีกว่ากลิ่นของมัน เช่นเดียวกับอาหารอันโอชาขนิดอื่นๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเคยชิน อาหารที่ทานบ่อยก็จะรู้สึกว่ามันอร่อย และ ยังมีการดื่ม เหล้าสนั๊พสฺ และ เบียร์ เพื่อที่จะเพลารสชาติของปลาหมักลงด้วย

เนื้อหาสาระ:

ปลาเฮอริงหมักเกิดมาได้อย่างไรไม่มีประวัติที่บ่งชี้แน่ชัด ไม่มีใครทราบว่า คนสวีเดนเริ่มทานปลาเฮอริงหมักกันตั้งแต่เมื่อไร มีคำอธิบายที่บ่อยครั้งที่ได้ยินกันคือ สมัยกุสสตาฟวอซ่า Gustav Vasas tid ประมาณปี ค.ศ 1500 มีการขาดแคลนเกลือในประเทศสวีเดน ดังนั้นจึงมีการใช้เกลือน้อยลงกับปลา และได้เกิด ยิสต์ขึ้น ซึ่งเป็นการทำปลาเฮอริงหมัก ความจริงอาจเป็นไปได้ว่า ปลาส้ม หรือ ปลาเปรี้ยวนี้มีมานานมากกว่านี้ แต่ก่อนนี้มีการทำปลาส้มชนิดอื่นที่คล้ายๆกัน เช่น gravad lax - (กรอ หวาด ลักซฺ) - ปลาแซลมอลหมัก มีประวัติความเป็นมาโยงใยกันกับปลาเฮอริงหมัก